พลังงานดีๆ @Yoga Space Together



นี

นี่ก็เกือบ 8เดือนแล้วที่ฉัน ได้ฝึกโยคะที่สตูดิโอโยคะอย่างจริงจัง

     เดือนแรกๆที่ฝึกนี่โดนครูจัดท่าเยอะมาก ทำให้รู้ว่าที่เราฝึกจากยูทูปนี่มันผิดมาตลอด

เสี่ยงต่อการบาดเจ็บจากการฝืนทำและทำท่าผิดมากๆ

     ช่วงแรกๆก็มาฝึกเกือบจะทุกเย็นหลังจากเลิกงาน หลังๆมานี้ก็แอบมีรอบเที่ยงโผล่มาบ้าง 
เล็กน้อยถึงปานกลาง จนครูที่สตูฯถามว่าติดโยคะแล้วใช่มั้ย ...

เอาจริงๆไม่เคยคิดว่าโยคะจะเสียเหงื่อได้เยอะขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะเราไม่ค่อยมีกล้ามเนื้อ

และหนักไปทางไขมันซะเยอะ มันก็มาจากที่กินแย่และไม่ค่อยได้ออกกำลัง ทำให้ตอนที่เข้าในท่า
และค้างท่า มีอาการสั่น(100ริกเตอร์)โอน เอน เกร็งกล้ามเนื้อนี่ยากมาก 
แถมเวลาครูบอกให้เอาหน้าท้องห่างจากหน้าขานี่ไม่ต้องพูดถึงค่ะ สำหรับเราอย่าเรียกหน้าท้องเลย 
เรียกพุงพลุ้ยเถอะค่ะ ตอนนี้ก็ยังเอาพุงห่างหน้าขาไม่ได้ แต่อาการสั่นโอนและเอนนั้น 
มีแนวโน้มดีขึ้น เกร็งกล้ามเนื้อได้อย่างที่ใจคิดได้มากขึ้น   

    ส่วนในเรื่องของจิตใจนั้น คงต้องบอกว่าพี่เจอรักแท้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะแบกเสื้อผ้า 
หิ้วขวดน้ำออกจากบ้าน ยืนบนบีทีเอสทั้งไปทั้งกลับทุกๆวันถ้าใจไม่รักที่จะมาเจอกัน

     มันรู้สึกดีนะเวลาที่ได้อยู่กับตัวเองจริงๆ เวลาแค่60นาที, 75นาที ฟังเสียงร่างกาย ฟังเสียงครู
ตัดเรื่องวุ่นวายที่เจอมาทั้งวัน ทั้งอาทิตย์ทิ้งไปก่อน อยู่กับลมหายใจ ระหว่างฝึกมันเหนื่อยก็จริง
แต่ฝึกเสร็จแล้วเรารู้สึกว่ามันได้อะไรๆกลับมา อารมณ์ดีขึ้นไม่ค่อยจะหงุดหงิดง่ายเหมือนเมื่อก่อน 

     ครูที่สตูฯแต่ละคนก็จะมีแนวคิดมีเทคนิคต่างๆมาสอนมาแบ่งปันเสมอ 
อย่างตอนฝึกแรกๆ เห็นคนอื่นๆทำได้ เราก็ฝืนจะทำท่ายากๆที่ร่างกายเรายังไปไม่ได้
ซึ่งมันก็จะทำให้ตัวเองบาดเจ็บได้ แถมยังหงุดหงิดกับตัวเองด้วย แต่พอเราได้ลองฟังครู
ครูทุกคนจะพูดเสมอว่าให้ฟังเสียงร่างกาย อยู่ในท่าอาสนะให้สบาย
อยู่กับลมหายใจ ฝึกไปเรื่อยๆสักวันเราจะทำได้ และมีคำพูดครูที่ปลดล๊อคเราเลย

     "คือครูบอกว่าเรามาฝึกเพื่อสลายอีโก้ ไม่ได้ฝึกเพื่อเพิ่มอีโก้

เก่งไม่เก่งไม่สำคัญ แค่เราหาเวลามาฝึกก็คือเราให้เวลาให้ความสำคัญกับตัวเองแล้ว"

คือวันนั้นเหมือนคลำเจอสวิตช์เปิดไฟให้ตัวเองแล้วโลกสว่างขึ้นมาทันที
เราไม่จำเป็นต้องแข่งกับใครเลยในเรื่องการฝึกโยคะ ถ้าจะแข่งก็แข่งกับตัวเอง 
สำรวจตัวเองว่า เราวันนี้กับเมื่อวานแตกต่างกันมั้ย ดีขึ้นรึเปล่า 
ทั้งในแง่ของความแข็งแรงของร่างกายและจิตใจ

บางวันอาจจะทำได้ไม่ดีก็ให้อภัยตัวเอง แล้วพรุ่งนี้ก็เริ่มใหม่
หัวเราะตัวเองในความโก๊ะกังบ้าง ที่บางทีครูบอกก้าวซ้าย เราก็ดันก้าวขวา ทำสลับข้างไปบ้าง
บางวันก็ทำท่าไม่ได้บ้าง บางวันก็ล้มตึงลงไปบ้าง ก็มองให้มันเป็นเรื่องขำๆไป 
อย่าไปซีเรียส ในเรื่องของการใช้ชีวิตก็เหมือนกัน ไม่มีใครหรืออะไรสมบูรณ์แบบไปทุกอย่าง
แต่ขอแค่เรามีความสุขกับตัวเองก็พอ
 
มาถึงบรรทัดนี้ ต้องขอบคุณ ครูที่สตูดิโอ Yoga Space Together ทุกคน
เพื่อนร่วมคลาสที่มาฝึกและแบ่งปันพลังงานดีๆให้กันเสมอ
รักรอยยิ้ม รักเสียงหัวเราะและบรรยากาศความเป็นกันเองของที่นี่
อยู่ฝึกกันไปอีกยาวๆค่ะ❤️💕




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คิดถึงพี่มั้ย?

Love is all around.

สายลม.. ซ่อนใจ..